ปราสาทฮิเมจิ ถ้าพูดถึงสมบัติประจำชาตินั้นแปลว่าต้องมีสำคัญและเก่าแก่ วันนี้เราของขอยกสมบัติของชาติอย่างปราสาท ฮิเมจิ มาแนะนำเพราะถือได้ปราสาทแห่งนี้นั้นทั้งสวยและมีประวัติยาวนาน เพราะใครที่เดินทางมาเยือน เมืองเกียวโต จะต้องมาแวะชมปราสาทแห่งนี้เพราะ ที่นี้เปรียบเสมือนสัญญาลักษณ์ประจำเมืองเกียวโตแห่งนี้ ปราสาท ฮิเมจิ(Himeji Castle) เป็นปราสาทญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเมืองฮิเมจิ จังหวัดเฮียวโงะ เป็นสิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งที่เหลือรอดมาจากการทิ้งระเบิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองและแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ฮันชิง พ.ศ. 2538 ถือว่าเป็น 1 ใน 3 ปราสาทที่งดงามที่สุดในญี่ปุ่น โดยอีก 2 แห่งคือ ปราสาทมะสึโมะโตะ และปราสาทคุมะโมะโตะ และยังเป็นปราสาทที่มีผู้มาเยี่ยมชมมากที่สุดในญี่ปุ่น ชาวญี่ปุ่นนิยมเรียกในชื่อว่า “ปราสาทนกกระสาขาว” หรือ ฮะคุระโจะซึ่งมีที่มาจากพื้นผิวปราสาทภายนอกซึ่งมีสีขาวสว่าง ในปัจจุบันปราสาทได้ขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติประจำชาติญี่ปุ่นและมรดกโลก นอกจากนี้ยังเป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์ของปราสาทญี่ปุ่น ด้วยลักษณะสถาปัตยกรรมและยุทโธปกรณ์ครบตามแบบของปราสาทญี่ปุ่น ทั้งฐานหินสูง กำแพงสีขาว และอาคารต่างๆในบริเวณปราสาทถือได้ว่าเป็นมาตรฐานตามแบบของปราสาทญี่ปุ่น และรอบๆปราสาทยังมีเครื่องป้องกันอีกมากมาย เช่น ช่องใส่ปืนใหญ่ รูสำหรับโยนหินออกนอกปราสาท จุดเด่นอีกอย่างของปราสาทอย่างหนึ่งคือ ทางเดินสู่อาคารหลักซึ่งสลับซับซ้อนราวกับเขาวงกต ทั้งประตูและกำแพงต่างๆในปราสาทได้รับการออกแบบมาอย่างดีเพื่อป้องกันศัตรูไม่ให้บุกรุกเข้าถึงโดยง่าย โดยทางเดินมีลักษณะเป็นวงก้นหอยรอบๆอาคารหลัก และระหว่างทางก็จะพบทางตันอีกมากมาย ระหว่างที่ศัตรูกำลังหลงทางอยู่นี้ก็จะถูกโจมตีจากข้างบนอาคารหลักได้โดยสะดวก แต่อย่างไรก็ตาม ปราสาทฮิเมจิก็ยังไม่เคยถูกโจมตีในลักษณะนี้เลย ระบบการป้องกันต่างๆจึงยังไม่เคยถูกใช้งานเลยสักครั้ง
ปราสาทแห่งนี้มีประวัติศาสตร์การก่อสร้างมานานกว่า 400 ปีซึ่งนับเป็นปราสาทที่ยังคงสภาพเดิมและสวยที่สุดในญี่ปุ่น
ปราสาทฮิเมจิ ยามซากุระบาน
นอกจากนี้ยังได้รับการจดทะเบียนให้เป็นมรดกโลกจากยูเนสโกในปี ค.ศ.1993 หรือประมาณปี พ.ศ. 2536 ปราสาทนั้นถูกสร้างให้งดงามและสง่า ซึ่งเปรียบเปรยให้เป็นนกกระยางซึ่งบางทีก็ถูกเรียกว่า“ปราสาทนกกระยางขาว’’
และ เมื่อวันที่ 27 มีนาคม ปี 2015 ปราสาทฮิเมจิได้เปิดให้เข้าชมหลังจาก อยู่ในช่วงซ่อมบำรุงในรอบ 50 ปี ซึ่งไม่สามารถเข้าไปในตัวปราสาทหลักได้ ซึ่งปัจจุบันก็ได้เปิดให้เข้าชมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และความสวยงามอีกอย่างที่พลาดไม่ได้ คืองดงามของกำแพงปราสาทที่ทาด้วยปูนขาวและหอคอยที่ตั้งตระหง่านบนฟ้าสง่างาม นอกจากนี้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิต้นซากุระจำนวน 1000 ต้นที่อยู่ภายในปราสาทจะบานสะพรั่งซึ่งช่วงนี้จะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาชมความสวยงามของดอกซากุระ
นอกจากนี้ จุดเด่นที่เราไม่ควรพลาดคือ ในช่วงสุดสัปดาห์จะมีหน่วยชุดเกราะ หรือกลุ่มคนใส่ชุดเกราะที่ออกมาต้อนรับนักท่องเที่ยว
หรือ ,คนเฝ้าประตู,นินจา,คาแรคเตอร์ประจำเมืองฮิเมจิ “ซิโระมารุฮิเมะ”จะมาต้อนรับแขกผู้มาเยือนปราสาทแห่งนี้
เป็นยังไงบ้างสำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่เรายกมาแนะสำหรับใครที่อ่านแล้วอยากลองไปสัมผัสกับปราสาทที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น มรดกของชาติแต่ยังไม่รู้จะเดินทางยังไง สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ http://www.thaipackagetour.net/ เพราะที่นี้เค้ามีโปรแกรมการเดินทางท่องเที่ยวมากมายรวมถึง แพคเกจทัวร์ที่เดินทางไปยังปราสาทที่เป็นมรดกของชาติแห่งนี้ด้วย หรือสามารถเลือกแพคเกจประเทศอื่นก็ได้หากคุณต้องการ หรือ คลิกเพื่อดูรายละเอียดที่นี้
มีชีวิตกับการเดินทางตั้งแต่สมัยเรียน จนมาเป็นอาชีพมัคคุเทศก์ เดินทางนำเที่ยวต่างประเทศมาหลายประเทศ จนมาเป็นนักเขียนบทความท่องเที่ยว เป็นนักพัฒนา Web Application สำหรับการท่องเที่ยว ต่อเนื่องมาเป็นผู้ทำตลาดการท่องเที่ยว และเป็นผู้บริหารบริษัทธุรกิจการท่องเที่ยว
คุณต้องเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น.