สวัสดีคะ พบกันอีกแล้วสำหรับการแนะนำแห่งท่องเที่ยว วันนี้ไม่ขอแนะนำอะไรมากเพราะถ้าพูดชื่อนี้ ใครๆ ก็ต้องรู้จักกันดี ลูกเล็กเด็กแดงยังรู้จัก นั้นก็คือ มัลดีฟส์ (Maldives) มัลดีฟส์ถือว่าคือสวรรค์สำหรับนักเดินทางเลยทีเดียว เพราะที่เกาะเล็กๆแห่งนี้ มีทะเลที่สวย ทรายเม็ดสีขาวๆ กับต้นมะพร้าวที่ตั้งโดดเด่นอยู่ริมหาด แถมน้ำทะเลไม่ต้องพูดเลยว่าใสขนาดไหนเพราะคุณสามารถมองเห็นทุกอย่างที่แหวกว่ายอยู่ในน้ำอย่างชัดแจ๋ววว…..แหม๋พูดขนาดนี้แล้วเราเชื่อคะว่าคุณต้องอยากไปมากๆจนอดใจไม่อยู่อย่างแน่นอน
ก่อนอื่นเราดูข้อมูลคราวๆเกี่ยวการเตรียมตัวในการเดินกันก่อนเพื่อความสะดวกคะ
ก่อนอื่นเรามารู้จักกับสภาพภูมิอาการของมัลดีฟส์กันก่อนนะคะ…… 😀 🙂 💡 ➡
มัลดีฟส์ตั้งอยู่ในทะเลแถบเส้นศูนย์สูตรภูมิอากาศจึงเป็นแบบร้อนชื้น แบ่งออกเป็น 2 ฤดู ตามลมมรสุม คือ
💡 ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ หรือ ฮัลฮันกู (Halhangu) ตามภาษาท้องถิ่น เริ่มจากเดือนพฤษภาคม-พฤศจิกายน เป็นเดือนที่มีฝนตกมากและลมแรง
💡 ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ หรืออิรูไว (Iruvai) อยู่ในระหว่างเดือนธันวาคม-มีนาคม เป็นเดือนที่มีฝนน้อยกว่า แต่วางใจไม่ได้ บางครั้งถึงมีแสงแดดแรง ฝนก็อาจจะตกได้
อุณหภูมิโดยทั่วไปค่อนข้างคงที่ กลางวันเฉลี่ย 30-31.8 องศาเซลเซียส กลางคืน 25.1-26.3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิน้ำทะเล 27 องศาเซลเซียส
เวลา ของ มัลดีฟส์
เวลาของมัลดีฟส์ช้ากว่าเวลาประเทศไทย 1 ชั่วโมงครึ่ง ถือว่าห่างกันนิดเดียวมากก
สิ่งที่ควรรู้อย่างต่อมาก็สำคัญไม่แพ้กัน…..
สิ่งของที่สามารถนำเข้าได้โดยไม่ต้องเสียภาษี ได้แก่
บุหรี่ ยาสูบ หรือซิการ์ในปริมาณที่เหมาะสม ของขวัญหรือของที่ระลึกจำนวนตามสมควรและ เงินตราทุกสกุลไม่จำกัดจำนวน
สิ่งของต้องห้ามนำเข้าหรือนำออกนอกประเทศ ได้แก่
1.อาวุธปืนหรือดินปืนทุกชนิด
2.ปืนหน้าไม้ ปืนฉมวก และสารเคมีอันตราย
3.ยาพิษและกรดทุกชนิด
4.สัตว์อันตราย สุนัข สุกร เนื้อหมู ยาที่ผิดกฎหมาย และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด (หาก ศุลกากรเอ็กเรย์พบเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะยึดไว้ และคืนให้คุณเมื่อจะเดินทางออกนอกประเทศ)
5.วัสดุอนาจารทุกรูปแบบ
6.ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ เช่น กระดองเต่า กัลปังหา
ต่อมาข้อนี้ถือว่าเป็นปัจจัยหลักของการใช้ชีวิตในมมัลดีฟส์ เลย คงหนีไม่พ้น เงินนั้นเอง 😯 💡
สกุลเงินของ มัลดีฟส์ส์ คือ Rufiyaa โดยอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 1 USD เท่ากับ 12.75 Rufiyaa โดยประมาณ สามารถแลกเงินได้ตามสถานรับแลกเงินต่าง ๆ สามารถใช้ traveller cheques และเครดิตการ์ด และเงินสกุลยูโร, เงินดอลล่าก็สามารถใช้ได้ทั่วเกาะไม่ว่าจะเป็นโรงแรมหรือรีสอร์ท ถือว่าสะดวกสบายมักมากเลยที่เดียว
ภาษา ของมัลดีฟส์
บ้างคนอาจสงสัยว่าถ้าเรามาเที่ยวเมาดีฟ เราจะต้องสื่อสารเป็นภาษาอะไรดี ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้เลยคะเพราะว่าเค้าสามรถพูดภาษาอังกฤษได้ แต่ไม่ต้องกลัวเพราะเกือบทุกรีสอร์ทส่วนใหญ่จะมีเจ้าหน้าที่ที่สามารถพูดภาษาหลักอื่นๆได้ เช่น ภาษาเยอรมัน ภาษาญี่ปุ่น ภาษาอิตาลี หายห่วงได้คะ
ฟิลม์และกล้องถ่ายรูป
แหม๋…ไปเที่ยวทะเละทั้งทีสิ่งที่ขาดไม่ได้คงเป็นการถ่ายรูปกับวิวสวยๆ ใช่มั้ยคะ แต่ว่าก็จะมีข้อแนะนำนิดหน่อย เพื่อความสะดวก เราควรเตรียมไปให้เพียงพอโดยเฉพาะฟิล์มเพราะที่ต่างประเทศราคาจะสูงมาก กอไก่10ตัวลากยาวเลยทีเดียว โดยเฉพาะ ตามสถานที่ท่องเที่ยว และควรเตรียมถ่านใส่กล้องถ่ายรูปไปด้วยเพราะอากาศเย็นอาจทำให้ถ่านนั้นเสื่อมสภาพเร็ว
ปลั๊กและระบบไฟฟ้า ในมัลดีฟส์
ระบบไฟฟ้าของที่นี้เป็นแบบ 220-240 โวลต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าในเมืองไทยสามารถนำไปใช้ที่มัลดีฟส์ส์ได้ แต่สิ่งที่ควรเตรียมไปคือปลั๊ก เพราะปลั๊กที่มัลดีฟส์ส์ เป็นแบบ 3 ขาเหลี่ยมแต่ไม่ต้องห่วงคะเพราะส่วนใหญ่ที่ รีสอร์ทจะมีหัวปลั๊กที่ใช้ได้กับหัวปลั๊กทั่วโลกอยู่ในห้องพักอยู่แล้ว
การใช้โทรศัพท์
วิธีที่ง่ายที่สุดคือเปิด roaming กับผู้ให้บริการโทรศัพท์ วิธีค่าใช้จ่ายค่อนข้างจะสูงมากถึงขั้นหลักพันหรือหมื่นต่อเดือนได้เลย จึงเหมาะกับการเก็บไว้ใช้กรณีฉุกเฉินเท่านั้น แต่วิธีที่แนะนำคือ เมื่อไปถึงประเทศนั้น ให้ไปซื้อ sim ประเภท prepaid มาใช้กับเครื่องโทรศัพท์ของเรา (โทรศัพท์เมืองไทยไม่ได้ล๊อคไว้ เพราะฉะนั้นซื้อซิมเสียบได้เลย) หรือบางที่เขาก็ไม่ยอมขายซิมอย่างเดียว ต้องพ่วงเครื่องถูก ๆ ด้วย หลังจากนั้นไปซื้อ pin กับผู้ให้บริการโทรกลับเมืองไทย เช่น thaitel.com, imissthailand.com, etc และจะได้ local access number และ sim number ก็หมุนเข้าเครือข่ายนั้นๆแล้วปฏิบัติตามคำแนะนำ วิธีนี้จ่ายเงิน 2 ต่อแต่ก็ยังถูกกว่า roaming จะเห็นได้ว่าการใช้โทรศัพท์ก็ไม่ได้ต่างจากการไปเที่ยวในประเทศอื่นๆเลย
อาหาและเครื่องดื่ม
เครื่องดื่มจำพวกน้ำบรรจุขวดมีขายทั่วไปตามรีสอร์ตและที่พักในเมืองมาเล่มีบริการน้ำดื่มสะอาด มัลดีฟส์ส์มีข้อห้ามเข้มงวดเรื่องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นักท่องเที่ยวจะดื่มได้เฉพาะในรีสอร์ต โรงแรมที่สนามบิน และในเรือเฟอร์รี่ขณะกำลังเดินทาง เมื่อเรือจอดที่ท่า บาร์ต้องปิดขายทันที นักท่องเที่ยวที่ไปเยือนมัลดีฟส์ส์ส่วนใหญ่ติดใจราหรือน้ำตาลสดที่ได้จากรวงมะพร้าว ทุกหมู่บ้านมีคนขายน้ำตาสดเรียกว่า “รา เวริ” ต้องลองชิมด้วยตัวเอง มะพร้าวอ่อนที่มัลดีฟส์ส์ก็มีให้รับประทานเช่นกัน ภาษาพื้นเมืองเรียกว่า คูรัมบาร ส่วนอาหารส่วนใหญ่จะเป็นเมนูที่เกี่ยวกับปลาซะส่วนใหญ่เพราะมัลดีฟส์ พื้นที่กว่า 90 เปอร์เซ็นต์ เป็นทะเล
ถึงจุดนี้ทุกท่านอาจมีความสงสัยว่าถ้ามามัลดีฟส์จะมีกิจกรรมอะไรให้ทำมั้ง??
กิจกรรมส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ต่างจากการเที่ยวทะเลบ้านเรามากนัก ส่วนใหญ่ก็จะเป็นการดำน้ำ ดูปะการัง และสัตว์ทะเลนานาชนิดที่ว่ายอยู่ในน้ำทะเลที่ใส จนเห็นพื้นทราย ส่วนเรื่องวิธีการดำน้ำจะดำยังไง ต้องทำแบบไหน ไม่ต้องห่วงคะเพราะทุกๆรีสอร์ทมีการสอนดำน้ำ หรือคุณอาจจะแค่ใส่หน้ากาก และตีนกบ และว่ายจากชายหาดเพื่อไปชื่นใจกับความงามใต้ท้องทะเลได้แล้ว
ข้อแนะนำ 💡 💡 💡
สำหรับท่านที่ต้องการดำน้ำแบบ Scuba ต้องมีบัตรดำน้ำและ Log Book ติดตัวไปด้วย ก่อนเดินทางควรหาเวลาว่างไปดำน้ำเล่น และบันทึกการดำน้ำใน Log book ภายใน 3-4 เดือน ก่อนไปดำน้ำในมัลดีฟส์ส์เพื่อความคล่องตัวของทักษะการดำน้ำ เพราะทุกรีสอร์ทจะให้มี Test Dive เพื่อความปลอดภัยก่อน
ระดับการดำน้ำในมัลดีฟส์ส์ ท่านควรจบหลักสูตร Advance Open Water เพราะจุดดำน้ำส่วนใหญ่อยู่ในระดับ 8-30 เมตร หากท่านจบหลักสูตร Open Water ก็สามารถดำได้เช่นกัน แต่จะไม่สามารถลงในจุดที่ลึกกว่า 18 เมตร ตามหลักสูตรที่เรียนม
ทุกรีสอร์ทมีแพ็กเกจสำหรับดำน้ำทุกวันอยู่แล้ว และจะมีการเปลี่ยนจุดดำน้ำทุกวัน ท่านสามารถซื้อแพคเกจโดยตรงได้จากทางรีสอร์ท จุดดำน้ำท่านอาจไม่สามารถกำหนดเองได้ ขึ้นอยู่กับเส้นทางของรีสอร์ทที่กำหนดไว้แต่ละวัน
ราคา Fun dive โดยทั่วไป ประมาณ 40-50 USD. ต่อ 1 Dive ไม่รวมอุปกรณ์ ส่วนค่าเช่าอุปกรณ์ทั่วไปประมาณ 30-40 USD. ต่อวัน รวมถึง Dive Computer ซึ่งบังคับให้ทุกคนใช้สำหรับการดำน้ำลึก
สำหรับผู้ที่ต้องการเน้นการดำน้ำโดยเฉพาะ ควรพักอยู่ในกลุ่ม Male’ Atoll เพราะ มี Dive site มากกว่า Atoll อื่นๆ และการเดินทางเข้ารีสอร์ทง่าย โดยเรือ Speed boat ได้เลยในวันแรก ถ้าเป็นรีสอร์ทใน Atoll อื่นๆ ที่ไกลออกไป จะต้องเสียเวลานอนในเมืองมาเล่ 1 คืน ก่อนขึ้น Seaplane เพื่อเดินทางสู่รีสอร์ทในวันรุ่งขึ้น หากเคยดำน้ำในกลุ่มนี้แล้ว อีกกลุ่มที่แนะนำคือกลุ่มที่พักใน Ari Atoll ซึ่งมี Dive site ที่น่าสนใจเช่นกัน
ส่วนกิจกรรมอื่นๆ ก็มีให้เลือกมากมาย เช่น การเล่นกระดานโต้คลื่นหรือ surfing ,การแล่นเรือใบ, Parasailing , วินด์เซิร์ฟ, สกีน้ำ, เจ็ทสกี , การตกปลา แต่ถ้าหากการตกปลาตอนกลางวันยังไม่ทำให้คุณจุใจก็ยังมีเรือพาไปตกปลาตอนกลางคืนอีก ชื่อเรือ ‘dhoni’ ซึ่งเป็นเรือตกปลาแบบดั้งเดิม บางคนยังรู้สึกไม่พอกับกิจกรรมที่กล่าวมาข้างต้น ตามรีสอร์ทจึงมีบานาน่าโบ๊ทไว้คอยบริการสำหรับให้เล่นฆ่าเวลาอีกด้วย
ถ้ายังไม่จุใจ หรือ เบื่อกับการเล่นน้ำ อาบแดด มัลดีฟส์ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวบนบกรอให้คุณได้ไปชมอีกหลายที่ เช่น………. ➡ ➡ ➡
ศูนย์กลางศาสนาอิสลามและสุเหร่าประจำชาติ สุเหร่ายอดโดมสีทองสูงเด่น สร้างขึ้นด้วยความช่วยเหลือของสหพันธรัฐแห่งอ่าวเปอร์เซีย ปากีสถาน บรูไน และมาเลเซีย ภายในโอ่อ่าด้วยห้องโถงกว้างจุคนได้ถึง 5,000 คน ฉากและประตูงดงามด้วยไม้แกะสลัก พรมทอลวดลายพิเศษพร้อมด้วยโคมไฟแก้ว หอคอยสูงใช้ประกาศเรียกเวลาสวดมนต์ตกแต่งเป็นลวดลายซิกแซก ศูนย์กลางศาสนาอิสลามประกอบด้วยห้องประชุมขนาดใหญ่ ห้องสมุด และห้องเรียน
ช้อแนะนำ 💡 💡 💡
สุเหร่าเปิดให้เข้าชมเวลา 09.00-17.00 น.
ผู้เข้าชมต้องแต่งกายสุภาพ ผู้ชายสวมกางเกงขายาว ผู้หญิงสวมกระโปรงหรือชุดยาวกรอมเท้า บ่าและแขนมีผ้าปกปิดมิด
มัสยิดฮูคูรุ Hukuru Miskiiy (Old Friday Mosque) เป็น มัสยิดเก่าแก่ที่สุดในมัลดีฟส์ส์ สร้างขึ้นราวปี 1656 ลักษณะภายนอกของมัสยิดไม่โดดเด่นเท่าไหร่นัก แต่ผนังด้านในสร้างขึ้นจากซากปะการังและแกะสลักลวดลายแบบอิสลาม มีความสวยงามมาก ผนัง กรอบประตู และกรอบหน้าต่างของมัสยิดสร้างขึ้นจากไม้ชนิดต่างๆ แตกต่างกัน นอกจากนี้ภายในยังประดับตกแต่งด้วยเครื่องไม้ลงแล็กเกอร์ มัสยิดแห่งนี้เป็นที่ฝังพระศพของอดีตสุลต่าน
พิพิธภัณฑ์แห่งชาติมัลดีฟส์ส์ (National Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งชาติมัลดีฟส์ส์จัดแสดงศิลปวัตถุโบราณวัตถุที่สำคัญ อาทิ ส่วนใหญ่จะเป็นของใช้ส่วนพระองค์ ของอดีตสุลต่าน ทั้งเครื่องประดับและอาภรณ์ของพระราชาและพระราชินี อาวุธ งานปักผ้าฝีมือชาวมัลดีเวียน ภาพถ่ายบุคคลสำคัญ และอีกหลายสิ่งที่สะท้อนวิถีชีวิตของชาวมัลดีฟส์ส์ในสมัยก่อน ซึ่งนักโบราณคดี Thor Heyerdahl รวบรวมมาจากทั่วประเทศ ตั้งอยู่ที่ถนน Medhuziyaaraiy Magu
ข้อแนะนำ เปิดให้เข้าชมทุกวันอาทิตย์-พฤหัสบดี เวลา 08:00-18:00 น.
เอสเจฮิแกลเลอรี่ (Esjehi Gallery) ที่ตั้งแกลเลอรี่เอสเจฮิถือได้ว่าเป็นตึกเก่าแก่ที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งใน มาเล่ สร้างขึ้นตั้งแต่ราวปี ค.ศ. 1870 เดิมเป็นบ้านขุนนาง ปัจจุบันถูกใช้เป็นที่แสดงงานศิลปะ ทั้งศิลปะร่วมสมัยและศิลปะพื้นเมืองของมัลดีฟส์ส์ ซึ่งตั้งอยู่ที่ถนน Medhuziyaaraiy Mag
มูลีอาเก (Mulee-aage) เป็นอาคารที่ผสมผสานสถาปัตยกรรมยุคใหม่และสถาปัตยกรรมแบบอิสลามได้อย่างสวยงาม ซึ่งแต่ก่อนนั้นเป็นวังเก่าของสุลต่าน สร้างขึ้นโดยสุลต่าน Shamsudheen III ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 หลังจากมัลดีฟส์ส์ล้มเลิกระบบสุลต่าน ที่นี่กลายเป็นที่พำนักของประธานาธิบดี จนกระทั่งที่พำนักแห่งใหม่สร้างแล้วเสร็จ โดยมีการเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น Presidential Palace
ที่พัก ในมัลดีฟส์
Booking.comส่วนที่พักในมัลดีฟส์นั้นมีให้เลือกมากมายหลายสไตล์ ถ้าใครอยากรู้ก็แค่ ค้นหาดูในอินเตอร์เน็ตเพราะแค่คลิกเข้าไปดู ก็ขึ้นมานับแถบไม่หวาดไม่ไหว เลยทีเดียว
เกาะที่น่าสนใจอื่นๆ
คานิ (Kani) เกาะที่อุดมไปด้วยป่าไม้ต้นไม้นานาพันธุ์จนเห็นโดดเด่นที่สุดจากทางอากาศ สามารถดำน้ำชมปะการังและโลกใต้ทะเลได้ในบริเวณรอบๆ เกาะ
บันโดส (Bandos) เกาะเล็กๆ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสวรรค์ของนักดำน้ำ ด้วยเหตุที่ว่าเป็นเขตที่มีปะการังหนาแน่นมากที่สุด ชนิดที่เข้าขั้นป่าดงดิบปะการัง ซึ่งก็แน่นอนว่าโลกใต้น้ำในบริเวณเกาะแห่งนี้ย่อมจะมีความสมบูรณ์อย่างถึงที่สุดเช่นกัน
ไนฟารู (Naifaru)เกาะขนาดเล็กที่ค่อนข้างสงบ สนนราคาที่พักก็ไม่แพงเมื่อเทียบกับรีสอร์ทในเกาะหลักอื่นๆ เกาะนี้ไม่ค่อยพลุกพล่านและยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก แต่ทั้งนี้ก็มิได้มีความสวยงามด้อยกว่าเกาะอื่นๆ เกาะไนฟารูขึ้นชื่อเรื่องภูเขาทรายที่เกิดตามธรรมชาติ ชายหาดสะอาดสีขาวเงิน รวมไปถึงแหล่งร้านค้าที่จัดจำหน่ายสินค้าหัตถกรรมพื้นบ้านและแหล่งร้านอาหารนานาชาติที่มีให้เลือกสรรมากมาย
อะลิมาทา (Alimatha) เป็นเขตที่ขึ้นชื่อว่ามีโลกใต้น้ำสวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของหมู่เกาะมัลดีฟส์ส์ นอกจากจะเป็นจุดดำน้ำระดับโลก มีฝูงปลามากมายให้ได้ชม เกาะแห่งนี้ยังมีความอุดสมบูรณ์ของป่าไม้บนเกาะ นอกจากนั้นบริการที่พักก็หรูเริ่ดและสะดวกสบายระดับห้าดาวไม่น้อยหน้ารีสอร์ทดังแห่งอื่นๆ เลย
การเดินทางไปมัลดีฟส์
การเดินทางไปมัลดีฟส์ ไม่ยากเลยคะ เราจะพายเรือไปกันคะ 555+ ไม่ใช่นะคะ เราแค่ล้อเล่น…… 😉 🙂 😀
การเดินทางไปมัลดีฟส์ในปัจจุบันถือว่าค่อนข้างง่ายและสะดวกมากเพราะปัจจุบันนั้นมีสายการการบิน ที่บินตรงเลยเช่นสายการบินบางกอกแอร์เวย์ (บินตรงสู่มัลดีฟส์ส์) ใช้เวลาเพียงแค่ 4 ชั่วโมงเท่านั้น สู่สนามบินนานาชาติมาเล่ ประเทศมัลดีฟส์ จากนั้นจึงต่อเรือสปีดโบ๊ตต่อไปยังโรงแรมต่างๆ หรือ จะเป็นสายการบิน สิงคโปร์แอร์ไลน์ หรือจะป็นสายการศรีลังกันแอร์ไลน์ ก็ได้เช่นกัน ถ้าจะให้ง่ายไปกว่านี้ ก็มีโปรแกรมทัวร์ มัลดีฟส์ ที่บริษัททัวร์ต่างๆ ได้ทำออกมาให้เราได้เลือกเดินทางตามวันที่เราสะดวก เห็นมั้ยคะว่าการเที่ยวมัลดีฟส์ไม่ยากอย่างที่คิด แถมสะดวกสบายอีกต่างหาก ที่เหลือก็อยู่แค่ว่าคุณพร้อมเดินทางไปยังเกาะสวรรค์แห่งนี้หรือเปล่า……..
มีชีวิตกับการเดินทางตั้งแต่สมัยเรียน จนมาเป็นอาชีพมัคคุเทศก์ เดินทางนำเที่ยวต่างประเทศมาหลายประเทศ จนมาเป็นนักเขียนบทความท่องเที่ยว เป็นนักพัฒนา Web Application สำหรับการท่องเที่ยว ต่อเนื่องมาเป็นผู้ทำตลาดการท่องเที่ยว และเป็นผู้บริหารบริษัทธุรกิจการท่องเที่ยว
คุณต้องเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น.