เลือกวันเดินทาง
9วัน6คืน เดินทาง มิถุนายน 2566
(QQGO3MUC-SQ002)
9วัน6คืน เดินทาง มิถุนายน 2566
(QQGO3MUC-SQ002)
ขออภัย ทัวร์นี้ไม่สามารถจองได้ในขณะนี้
เที่ยวเมือง : Munich (มิวนิค) Milan (มิลาน) Salzburg (ซาลซ์บูร์ก) Lucerne (ลูเซิร์น) Zermatt (เซอร์แมท) Fussen (ฟุสเซ่น)
ดาวน์โหลดโปรแกรม
PDF : โปรแกรมทัวร์ pdf
เดินทาง มิถุนายน 2566
กำหนดการเดินทาง
วันที่ 17-25 มิถุนายน 66 | 93,900.- |
วันที่ | เส้นทางการเดินทาง | เช้า | กลางวัน | เย็น | โรงแรม |
วันที่ 1. | กรุงเทพ – สนามบินสิงคโปร์ | ✈ | ✈ | ✈ | |
วันที่ 2. | สนามบินสิงคโปร์ – มิวนิค – จัตุรัสมาเรียนพลาสท์ – ซาลส์บวร์ก | ✈ | ä | ä | MERCURE SALZBURG CITY |
วันที่ 3. | ซาลส์บวร์ก – ฮัลสตัท - ฟุสเซ่น | ä | ä | ä | HIRSCH |
วันที่ 4. | ฟุสเซ่น – เข้าชมปราสาทนอยชวานสไตน์ – ทิทิเซ่ – ชมความงามป่าดำ | ä | ä | ä | MARITIM TITISEE |
วันที่ 5. | ทิทิเซ่ – น้ำตกไรน์ – กรุงเบิร์น – ลูเซิร์น | ä | ä | X | IBIS STYLES LUZERN CITY |
วันที่ 6. | ลูเซิร์น – ยอดเขาริกิ – ซุก – แทซ | ä | ä | ä | ELITE |
วันที่ 7. | แทซ – เซอร์แมต – ยอดเขากรอนเนอร์แกรต -มิลาน | ä | ä | X | HOLIDAY INN MILAN NORD ZARA |
วันที่ 8. | มิลาน – สนามบิน | ä | ✈ | ✈ | |
วันที่ 9. | สนามบินสิงคโปร์ - กรุงเทพฯ | ✈ | ✈ | ✈ |
วันที่ 1 | กรุงเทพ – สนามบินสิงคโปร์ |
17.00 น. | คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ เคาน์เตอร์สายการบิน สิงคโปร์แอร์ไลน์ ประตู 5 แถว K พบเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก |
20.00 น. | ออกเดินทางสู่สนามบินสิงคโปร์ ด้วยเที่ยวบิน SQ713 |
23.30น. | เดินทางถึงสนามบินสิงคโปร์ รอเปลี่ยนเครื่อง |
วันที่ 2 | สนามบินสิงคโปร์ – มิวนิค – จัตุรัสมาเรียนพลาสท์ – ซาลส์บวร์ก |
00.25 น. | ออกเดินทางต่อสู่สนามบินมิวนิค ด้วยเที่ยวบิน SQ328 |
06.40 น. | ถึงสนามบินมิวนิค ประเทศเยอรมนี (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง และจะเปลี่ยนเป็น 5 ชั่วโมงในวันที่ 31 มีนาคม 2566) ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง นำท่านเดินทางสู่เมืองมิวนิค (Munich) อยู่ทางใต้ของประเทศเยอรมนี และเป็นเมืองหลวงของรัฐบาวาเรีย ยังเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ (รองจากเบอร์ลินและฮัมบูร์ก) และเป็นหนึ่งในเมืองมั่งคั่งที่สุดของยุโรป ซึ่งมีพรมแดนติดเทือกเขาแอลป์ โดยรัฐบาวาเรียเคยเป็นรัฐอิสระปกครองด้วยกษัตริย์มาก่อน ก่อนที่จะผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศเยอรมนี จึงมีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมเป็นของตัวเอง ทั้งด้านศิลปวัฒนธรรม และอาหารอันเลื่องชื่อ ซึ่งได้แก่ ไส้กรอกเยอรมัน ขาหมูทอด เพรทเซล และเบียร์ นำท่านถ่ายรูปด้านนอกที่ BMW Welt เป็นที่จัดแสดงอยู่ภายในอาคารขนาดใหญ่กว่า 25,000 ตรม. ตั้งอยู่ติดกับอาคารสำนักงานใหญ่ของ BMW ท่านจะได้ชมรถยนต์ในเครือของ BMW โดยพื้นที่ใน BMW Welt จะถูกแบ่งออกเป็นพื้นที่ต่างๆในการจัดแสดงรถยนต์ BMW โมเดลปัจจุบันทุกซีรีย์, โซนมอเตอร์ไซค์ BMW, โซน MINI Exhibition, โซน Rolls-Royce นำชมจัตุรัสมาเรียนพลาสท์ (Marienplatz) ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์และธุรกิจของนครมิวนิค บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมืองที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่งดงามซึ่งสร้างขึ้นในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ใช้เวลาสร้างถึง 42 ปี มีหอระฆังสูง 85 เมตร ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวรอคอยเฝ้าชมตุ๊กตาไขลานที่จะออกมาเต้นรำ เมื่อนาฬิกาตีบอกเวลา 11.00 น. และ 17.00 น. อิสระท่านเลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนม และของฝากตามอัธยาศัย |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน |
บ่าย | หลังจากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่เมืองซาลส์บวร์ก (Salzburg) ประเทศออสเตรีย เมืองที่เป็นบ้านเกิดของนักดนตรีเอก “วูล์ฟกัง อมาดิอุส โมสาร์ท” ที่มีชื่อเสียงก้องโลก โดยงเมืองซาลส์บวร์กมีความหมายว่า “ปราสาทเกลือ” เยี่ยมชมเขตเมืองเก่าศิลปะบาโรกที่ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำซัลซาค เมืองซาลส์บวร์กเคยเป็นที่ประทับถาวรของอาร์คบิชอป และ เป็นศูนย์กลางทางศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิกที่สำคัญยิ่งของบรรดาประเทศที่ใช้ภาษาเยอรมัน นำท่านชมสวนมิราเบลล์ (Mirabel Garden) ซึ่งเป็นฉากหนึ่งในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “มนต์รักเพลงสวรรค์” (The Sound of Music) ที่โด่งดังไปทั่วโลก |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน |
ที่พัก | นำท่านเข้าสู่ที่พัก MERCURE SALZBURG CITY หรือเทียบเท่า |
วันที่ 3 | ซาลส์บวร์ก – ฮัลสตัท - ฟุสเซ่น |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม |
ออกเดินทางสู่ฮัลสตัท (Hallstatt) หมู่บ้านมรดกโลกแสนสวยที่มีอายุกว่า 4,500 ปี เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ โอบล้อมด้วยขุนเขาและป่าสีเขียวขจีที่มีสวยงามราวกับภาพวาด กล่าวกันว่าเป็นเมืองที่โรแมนติกที่สุดใน Salzkammergut เขตที่อยู่บนอัพเพอร์ออสเตรีย และมีทะเลสาบที่สวยงามถึง 76 แห่ง ออสเตรียให้ฉายาเมืองนี้ว่าเป็นไข่มุกแห่งออสเตรีย และเป็นพื้นที่มรดกโลกของ UNESCO Cultural-Historical Heritage เพียงเดินเที่ยวชมเมืองเสมือนหนึ่งท่านอยู่ในภวังค์แห่งความฝัน | |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (ปลาเทร้าท์) |
บ่าย | จากนั้นเดินทางสู่เมืองฟุสเซ่น (Fussen) เป็นเมืองเก่ามาตั้งแต่ครั้งจักรวรรดิโรมัน เป็นที่ตั้งปราสาทของกษัตริย์บาวาเรีย ล้อมรอบไปด้วยทะเลสาบน้อยใหญ่ที่มีความงดงามทางด้านทัศนียภาพ เป็นเมืองสุดท้ายบนถนนสายโรแมนติกที่เคยมีความรุ่งเรืองในอดีตตั้งแต่ยุคโรมัน และได้ใช้เมืองนี้เป็นจุดแวะพักขนถ่ายสินค้า และซื้อขายเกลือมาแต่โบราณ |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง |
ที่พัก | นำท่านเข้าสู่ที่พัก HIRSCH หรือเทียบเท่า |
วันที่ 4 | ฟุสเซ่น – เข้าชมปราสาทนอยชวานสไตน์ – ทิทิเซ่ – ล่องเรือชมความงามป่าดำ |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม |
นำท่านสู่เมืองโฮเฮนชวานเกา (Hohenschwangau) เมืองเล็กๆที่สวยงามบริเวณเขตชายแดนของประเทศเยอรมนีและออสเตรีย จากนั้นเดินทางขึ้นปราสาทเพื่อเข้าชมความสวยงามของปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein Castle) นำชมต้นแบบของปราสาทเจ้าหญิงนิทราในดิสนีย์แลนด์ ซึ่งปราสาทนอยชวานสไตน์ ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขาดุจปราสาทในเทพนิยาย ซึ่งเป็นปราสาทของพระเจ้าลุดวิคที่ 2 หรือ เจ้าชายหงส์ขาว ชมความวิจิตรพิสดารของห้องต่างๆ ที่ได้รับการตกแต่งอย่างงดงามด้วยการออกแบบของริชาร์ด ว้ากเนอร์ ซึ่งเป็นนักประพันธ์เพลงที่ทรงโปรดปรานยิ่ง *** หากคณะไม่สามารถเข้าชมปราสาทนอยชวานสไตน์ได้ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์คืนเงินหน้างานท่านละ 13 ยูโร และถ่ายรูปด้านนอกกับปราสาทนอยชวานสไตน์ เป็นการทดแทน *** | |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (ขาหมูเยอรมัน) |
บ่าย | จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองทิทิเซ่(Titisee) เมืองริมทะเลสาปที่ตั้งอยู่ในเขตป่าดำ (Black Forest) ให้ท่านได้อิสระชมความงามของบ้านเรือน นำท่านล่องเรือชมทัศนียภาพของป่าสนอยู่บนภูเขา ที่เรียกว่า แบล็กฟอเรสต์ สถานที่อันเป็นต้นกำเนิดนาฬิกากุ๊กกู (กรณีที่ไม่สามารถล่องเรือได้ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์คืนเงินให้ท่านละ 5 EUR และเปลี่ยนโปรแกรมเป็นเดินเล่นริมทะเลสาบแทน) |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน |
ที่พัก | นำท่านเข้าสู่ที่พัก MARITIM TITISEE หรือเทียบเท่า |
วันที่ 5 | ทิทิเซ่ – น้ำตกไรน์ – กรุงเบิร์น – ลูเซิร์น |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม |
จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่เมืองชาฟฟ์เฮาเซิน (Schaffhausen) เมืองเล็กๆที่ตั้งอยู่ทางเหนือของสวิตเซอร์แลนด์ติดกับพรมแดนเยอรมนี โดยสถาปัตยกรรมของบ้านเรือนในเมืองนั้นตกแต่งด้วยศิลปะแบบเรเนอซองซ์และศิลปกรรมแบบเฟรสโกรวมกับภาพวาดตามผนังของอาคารต่างๆที่บอกเรื่องราวของชาวเมืองอย่างสวยงาม นอกจากนั้นแล้วเมืองนี้ยังมีชื่อเสียงจากการที่เป็นที่ตั้งของน้ำตกไรน์ (Rhine Fall) ซึ่งเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป นำท่านชมน้ำตกไรน์ (RhineFall) น้ำตกที่ใหญ่สวยงามและตื่นตาตื่นใจซึ่งเกิดจากแม่น้ำไรน์ทั้งสายไหลผ่านหน้าผากว้าง 150 เมตร จึงเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรปและได้ชื่อว่าเป็นน้ำตกที่สวยงามที่สุดในยุโรปกลางด้วย อิสระให้ท่านได้ชื่นชมความงามของน้ำตกและถ่ายรูปตามอัธยาศัย
หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่กรุงเบิร์น (Bern) ซึ่งได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ. 1863 นอกจากนี้เบิร์นยังถูกจัดอันดับอยู่ใน 1 ใน 10 ของเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของโลกในปี ค.ศ.2010 นำท่านชมบ่อหมีสีน้ำตาล (Bear Park) สัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของกรุงเบิร์น นำท่าน ชมมาร์กาสเซ ย่านเมืองเก่า ปัจจุบันเต็มไปด้วยร้านดอกไม้และบูติค เป็นย่านที่ปลอดรถยนต์ จึงเหมาะกับการเดินเที่ยวชมอาคารเก่า อายุ 200-300 ปี นำท่านลัดเลาะชม ถนนจุงเคอร์นกาสเซ ถนนที่มีระดับสูงสุดของเมืองนี้ ถนนกรัมกาสเซ ซึ่งเต็มไปด้วยร้านภาพวาดและร้านขายของเก่าในอาคารโบราณ ชมนาฬิกาไซ้ท์ คล็อคเค่นทรัม อายุ 800 ปี ที่มี “โชว์” ให้ดูทุกๆชั่วโมงในการตีบอกเวลาแต่ละครั้ง นำท่านแวะถ่ายรูปกับโบสถ์ Munster สิ่งก่อสร้างทางศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1421 ประตูจะมีภาพที่บรรยายถึงการตัดสินครั้งสุดท้ายของพระเจ้า |
|
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน |
บ่าย | เดินทางต่อสู่เมืองลูเซิร์น (Lucerne) เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ ที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยทะเลสาบและขุนเขา จากนั้นพาท่านชมสิงโตหินแกะสลัก (Dying Lion of Lucerne) ที่แกะสลักบนผาหินธรรมชาติ เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงการสละชีพอย่างกล้าหาญของทหารสวิสที่เกิดจากการปฏิวัติในฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ.1792 ชมสะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) ซึ่งมีความยาวถึง 204 เมตร ทอดข้ามผ่านแม่น้ำรอยส์ (Reuss River) อันงดงามซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น เป็นสะพานไม้ที่มีหลังคาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1333 โดยใต้หลังคาคลุมสะพานมีภาพวาดประวัติศาสตร์ของชาวสวิส ตลอดแนวสะพาน |
ค่ำ | อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย |
ที่พัก | นำท่านเข้าสู่ที่พัก IBIS STYLES LUZERN CITY หรือเทียบเท่า |
วันที่ 6 | ลูเซิร์น – ยอดเขาริกิ – ซุก – แทซ |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม |
จากนั้นนั่งรถไฟไต่เขาริกิ (Rigi) ที่ถือได้ว่าเป็นรถไฟไต่เขาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป และยังเป็นอันดับ 2 รองจากยอดเขาวอชิงตัน ในมลรัฐนิวแฮมป์เชียร์ ในสหรัฐอเมริกา ความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,797 เมตร ยอดเขาริกิ (Rigi Kulm) นี้มีที่มาจากคำว่า Mons Regina แปลได้ว่า ราชินิแห่งภูเขา(Queen of the mountains) เพราะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของยอดเขาอื่นๆ ได้รอบ 360 องศา ชมวิวแบบพาโนรามาโอบล้อมด้วยธรรมชาติของทะเลสาบ Luzern และ Zug | |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง |
บ่าย | เดินทางต่อสู่เมืองซุก (Zug) เมืองเล็กๆ ริมทะเลสาบที่สวยงามราวกับเทพนิยายตั้งอยู่ทางภาคกลางตอนบนของประเทศ โดยนอกจากความสวยงามของทัศนียภาพแล้ว เมืองนี้ยังมีอัตราการเก็บภาษีที่ค่อนข้างต่ำจึงถือเป็นที่ตากอากาศที่นิยมของเหล่าเศรษฐี คนดังสำคัญระดับโลกมากมายมาเยือน ท่านอาจจะเห็นซูเปอร์คาร์จอดเรียงรายอยู่ 2 ข้างทาง จนเป็นเรื่องธรรมดาไปเลย นำท่านชมเมืองชมหอนาฬิกาเมืองซุก (Clock Tower) แลนด์มาร์กที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมือง ด้วยความสูงของหอถึง 52 เมตรและความโดดเด่น ของหลังคาซึ่งเป็นสีน้ำเงินขาวโดนเด่นตัดกับสีหลังคาสีน้ำตาลของบ้านเมืองสวยงามอย่างยิ่ง มีเวลาให้ท่านเดินขึ้นบันไดสู่จุดชมวิวด้านบนของหอนาฬิกา ที่ท่านจะสามารถเห็นวิวที่สวยงามโดยรอบของเมือง นำท่านเข้าชมร้านทำทองที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป (The Oldest house of goldsmiths in Europe) ของครอบครัว Lohri เปิดทำการตั้งแต่สมัยศตวรรตที่ 16 ภายในตัวอาคารมีการตกแต่งในรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยจักรวรรดินโปเลียน มีซุ้มประตูและเสาโรมัน มีรูปปั้นและจิตรกรรมฝาผนัง ด้วยการวาดลายหินอ่อนด้วยมือ ในปี 1971 ได้เปิดร้านนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายาก และบางชิ้นมีเพียงชิ้นเดียวในโลก มีเวลาให้ท่านเดินชื่นชมอาคาร งานศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายากแล้ว ในส่วนของ Lohri Store ยังมีนาฬิกาชั้นนำระดับโลกให้ท่านเลือกซื้อ หลังจากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่เมืองแทซ (Taecsh) |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง |
ที่พัก | นำท่านเข้าสู่ที่พัก ELITE หรือเทียบเท่า |
วันที่ 7 | แทซ – เซอร์แมต – ยอดเขากรอนเนอร์แกรต -มิลาน |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม |
นำท่านสู่สถานีรถไฟเมืองแทซ เพื่อเดินทางเข้าสู่เมืองเซอร์แมต (Zermatt) นำท่านนั่งรถไฟฟันเฟืองสู่สถานีรถไฟกรอนเนอร์แกรต (Gornergrat railway) ทำท่านเดินทางสู่จุดชมวิวที่ท่านจะได้เห็นทัศนียภาพที่สวยงามของยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น ที่สวยงาม นำท่านเดินเท้าสู่บริเวณทะเลสาบที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 2,757 เมตร โดยบริเวณทะเลสาบนี้เป็นเงาสะท้อนภาพเขาแมทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn's reflect) อันสุดสวยงามยิ่งนัก ( โดยปกติน้ำในทะเลสาบ จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำฝน และ สภาพอากาศ ถ้าช่วงฤดูหนาวทะเลสาบจะกลายเป็นน้ำแข็ง) | |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง |
บ่าย | จากนั้นเดินทางข้ามพรหมแดนสวิตเซอร์แลนด์ – อิตาลี สู่ตัวเมืองมิลาน (Milan) เมืองที่เรียกได้ว่า เป็นเมืองหลวงแห่งแฟชั่นของโลก นำท่านถ่ายรูปด้านนอกของมหาวิหารแห่งเมืองมิลาน (Duomo di Milano) ที่สร้างด้วยศิลปะแบบนีโอโกธิค ผสมผสานกัน ชมความงดงามอันน่าอัศจรรย์ ของสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ นำท่านชม แกลเลอรี วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล (Galleria Vittorio Emanuele II) ซึ่งนับว่าเป็นช้อปปิ้งมอลล์ที่สวยงาม หรูหราและเก่าแก่ที่สุดในเมืองมิลาน อนุสาวรีย์ ของกษัตริย์วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล ที่ 2 ผู้ริเริ่มการรวมชาติหัวเมืองต่างๆในอิตาลี และอนุสาวรีย์ของศิลปินชื่อดังในยุคเรเนซองส์อีก 1 ท่าน คือลีโอนาร์โด ดาร์วินซี่ ที่อยู่ในบริเวณ ด้านหน้าของโรงละครสกาล่า |
ค่ำ | อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย |
ที่พัก | นำท่านเข้าสู่ที่พัก HOLIDAY INN MILAN NORD ZARA HOTEL หรือเทียบเท่า |
วันที่ 8 | มิลาน – สนามบิน |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม |
ได้เวลาอันสมควรนำเดินทางสู่สนามบิน เพื่อให้ท่านมีเวลาในการทำการคืนภาษี (Tax Refund) และมีเวลาในการเลือกซื้อสินค้าในร้านค้าปลอดภาษีภายในสนามบิน | |
12.40 น. | ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดยสารเที่ยวบินที่ SQ355 |
วันที่ 9 | สนามบินสิงคโปร์ - กรุงเทพฯ |
07.35 น. | เดินทางถึงสนามบินสิงคโปร์ รอเปลี่ยนเครื่อง |
12.50 น. | ออกเดินทางต่อสู่กรุงเทพด้วยเที่ยวบินที่ SQ710 (สำหรับคณะที่เดินทาง 18 มีนาคมและ 17 มิถุนายน จะออกเดินทางด้วยเที่ยวบิน SQ708 เวลา 09.45น. และไปถึงกรุงเทพเวลา 11.10 น.) |
14.20 น. | เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ |
|
SUNSET AT BLACK FOREST
เยอรมนี – ออสเตรีย – สวิตเซอร์แลนด์ – อิตาลี 9 วัน 6 คืน โดยสายการบิน SINGAPORE AIRLINES (SQ) |
|||
วันที่ 17-25 มิถุนายน 66 | 93,900.- | 14,900.- | |
โปรแกรมอาจจะมีการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมของสภาพอากาศและฤดูกาล |
เงื่อนไขการเดินทางเข้าออกจากประเทศไทย (Update 1 มิถุนายน 2565)
ผู้มีสัญชาติไทย
► เอกสารที่ต้องทำการเตรียมก่อนเดินทาง
เมื่อเดินทางกลับมาถึงประเทศไทย
► เงื่อนไขวัคซีน การเดินทางท่องเที่ยวในทวีปยุโรป ในโปรแกรมเข้าท่องเที่ยว
แสดงหลักฐานการได้รับวัคซีน ต้องได้รับการฉีดวัคซีน โดย Moderna, Pfizer or Astra-Zeneca 2 โดส หรือ Johnson & Johnson 2 โดส (โดยได้รับวัคซีนไม่เกิน 270 วัน ครอบคลุมวันเดินทาง)
เงื่อนไขการให้บริการ
อัตราค่าบริการนี้รวม |
ค่าประกันอุบัติเหตุคุ้มครองในระหว่างการเดินทางวงเงินไม่เกินท่านละ 1,000,000 บาท
ค่ารักษาพยาบาลในกรณีเกิดอุบัติเหตุวงเงินไม่เกินท่านละ 500,000 บาท (ตามเงื่อนไขกรมธรรม์)
** ลูกค้าท่านใดสนใจ...ซื้อประกันการเดินทางสำหรับครอบคลุมเรื่องสุขภาพสามารถสอบถามข้อมูล เพิ่มเติมกับทางบริษัทได้ **
**ความครอบคลุมผู้เอาประกันที่มีอายุตั้งแต่แรกเกิด ถึง 85 ปี **
[รักษาพยาบาล 2 ล้าน, เสียชีวิตหรือเสียอวัยวะจากอุบัติเหตุ 1.5 ล้านบาท]
อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม
เงื่อนไขการชำระค่าทัวร์ส่วนที่เหลือ
ทางบริษัทขอเก็บค่าทัวร์ส่วนที่เหลือ 45 วันก่อนการเดินทาง
หากท่านไม่ผ่านการอนุมัติวีซ่าหรือยกเลิกการเดินทางโดยเหตุจำเป็น
ทางบริษัทขอเก็บเฉพาะค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง
ข้อมูลเบื้องต้นในการเตรียมเอกสารยื่นวีซ่าและการยื่นวีซ่า
ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องตั๋วเครื่องบินและที่นั่งบนเครื่องบิน
กรณียกเลิกการเดินทาง
หรือมัดจำมาแล้ว ทางบริษัทฯ ขอเก็บเฉพาะค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง เช่น ค่าวีซ่าและค่าบริการยื่นวีซ่า /
ค่ามัดจำตั๋วเครื่องบินหรือค่าตั๋วเครื่องบิน (กรณีออกตั๋วเครื่องบินแล้ว) ค่าส่วนต่างในกรณีที่กรุ๊ปออก
เดินทางไม่ครบตามจำนวน
ทั้งหมด
เหตุผลใดๆ ตามทางบริษัทของสงวนสิทธิ์ในการ ไม่คืนค่าทัวร์ทั้งหมด
ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องโรงแรมที่พัก
บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนหรือย้ายเมืองเพื่อให้เกิดความเหมาะสม
และไม่มีอ่างอาบน้ำ ซึ่งขึ้นอยู่กับการออกแบบของแต่ละโรงแรมนั้นๆ และห้องแต่ละห้องอาจมีลักษณะแตกต่างกัน
เอกสารประกอบการขอวีซ่าเชงเก้น (เยอรมนี)
*** ยื่นวีซ่าแสดงตนที่ศูนย์ยื่นวีซ่า VFS Global (จามจุรีสแควร์)*** ใช้เวลาทำการอนุมัติวีซ่านับจากวันยื่นประมาณ 15 วัน เอกสารกรุณาเตรียม 1 ชุด ยกเว้น เอกสารที่ออกจากทางราชการและทางธนาคารขอเป็นตัวจริง 1 ชุด และสำเนา 1 ชุด ในวันยื่นวีซ่าหนังสือเดินทางต้องนำส่งเข้าสถานทูต และระหว่างรอผลการอนุมัติวีซ่า ไม่สามารถดึงหนังสือเดินทางออกมาได้ |
|
**หากท่านเคยโดนปฏิเสธการขอวีซ่ามาก่อน กรุณาแจ้งเจ้าหน้าที่ทัวร์ให้รับทราบตั้งแต่ที่ท่านทำการจองทัวร์เข้ามา เพื่อทำการแก้ไขในการขอวีซ่าในครั้งนี้ มิฉะนั้นหากท่านไม่แจ้งให้ทราบ อาจจะมีผลเสียต่อการขอวีซ่าของท่านในครั้งนี้**
**ลูกค้ากรุณาอย่ายึดติดกับการยื่นขอวีซ่าในอดีต เพราะสถานทูตมีการเปลี่ยนแปลงกฎและเอกสารการยื่นอยู่เรื่อย ๆ**
***ในกรณีที่ถือพาสปอร์ต สัญชาติไทย แต่พำนักอยู่ต่างประเทศ, ทำงานอยู่ต่างประเทศ หรือนักเรียน นักศึกษาศึกษาอยู่ต่างประเทศ กรุณาแจ้งเจ้าหน้าที่ของทางบริษัทให้ทราบทันที เพราะการยื่นขอวีซ่าจะมีเงื่อนไข และ ข้อกำหนดของทางสถานทูตต้องการเพิ่มเติม และ บางสถานทูตอาจไม่สามารถยื่นขอวีซ่าในประเทศไทยได้ ข้อกำหนดนี้รวมไปถึงผู้เดินทางที่ถือพาสปอร์ตต่างชาติด้วย***
ห้ามสวมแว่นตา คอนแทคเลนส์ หรือเครื่องประดับ , เปิดผมให้เห็นหูทั้ง 2 ข้าง, ห้ามตกแต่งรูป, รูปไม่เลอะหมึก ไม่มีรอยแม็ก ถ่ายจากร้านถ่ายรูปเท่านั้น
- เป็นพนักงาน หนังสือรับรองการทำงาน จากบริษัทฯ ระบุตำแหน่ง, เงินเดือน, วันเริ่มทำงาน (ขอเป็นภาษาอังกฤษมีอายุ 1 เดือน ชื่อ-สกุลต้องตรงตามหน้าพาสปอร์ต ใช้คำว่า “TO WHOM IT MAY CONCERN” แทนชื่อสถานทูตที่ยื่น) - เจ้าของกิจการ หนังสือรับรองการจดทะเบียน(DBD)ที่มีชื่อของผู้เดินทางเป็นกรรมการหรือหุ้นส่วน อายุไม่เกิน 3 เดือน หรือ สำเนาใบทะเบียนการค้า(พค.0403) - กิจการไม่จดทะเบียน จดหมายชี้แจงการทำงาน พร้อมเอกสารประกอบ เช่น รูปถ่ายร้าน สัญญาเช่าที่ โฉนดที่ดิน เป็นตัน - กรณีเป็นนักเรียน หรือ นักศึกษา ใช้หนังสือรับรองจากทางโรงเรียนหรือสถาบันที่กำลังศึกษาอยู่เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น (สถานทูตไม่รับเอกสารที่เป็นบัตรนักเรียน ไม่ว่าเป็นช่วงปิดเทอมและต้องมีอายุไม่เกิน 1 เดือนก่อนยื่นวีซ่า) - กรณีที่เกษียณอายุจากงานราชการ กรุณาแนบสำเนาบัตรข้าราชการบำนาญมาด้วย - กรณีที่เป็นเกษตรกร กรุณาแนบใบขึ้นทะเบียนเกษตรกรมาด้วย *** กรณีลูกค้าสัญชาติไทย ที่กำลังศึกษาหรือทำงานอยู่ต่างประเทศ จะไม่สามารถยื่นขอวีซ่าที่ไทยได้ ท่านจะต้องไปยื่นขอวีซ่าในประเทศที่ท่านกำลังศึกษาหรือทำงานอยู่ ***
-กรณีผู้เดินทางออกค่าใช้จ่ายเอง ใช้ Bank Statement ตัวจริง บัญชีออมทรัพย์ธรรมดาของธนาคารทั่วไป ย้อนหลัง 3 เดือน ที่ออกจากทางธนาคารเท่านั้น พร้อมกับมีตราประทับจากธนาคาร ทางสถานทูตจะไม่รับ Bank Statement ที่ปริ้นเองจาก Internet (รบกวนลูกค้าทำรายการเดินบัญชีโดยการฝากหรือถอน ก่อน 1-2 วัน แล้ว ค่อยขอ Statement เพื่อให้อัพเดทไม่เกิน 15 วันนับจากวันยื่นวีซ่า) -กรณีผู้เดินทางไม่ได้ออกค่าใช้จ่ายเอง ใช้ Bank Statement ตัวจริง บัญชีออมทรัพย์ย้อนหลัง 3 เดือน ที่ออกจากทางธนาคารเท่านั้น พร้อมกับมีตราประกับจากธนาคาร อัพเดทไม่เกิน 15 วันนับจากวันยื่นวีซ่า (ของผู้ที่ออกค่าใช้จ่าย) และต้องมีหน้า Passport ของผู้ที่ออกค่าใช้จ่าย พร้อมหนังสือชี้แจงออกค่าใช้จ่ายเป็นภาษาอังกฤษ (Sponsor letter) พร้อมเอกสารแสดงความสัมพันธ์ -กรณีผู้เดินทางไม่ได้ออกค่าใช้จ่ายเอง แต่บริษัทออกค่าใช้จ่ายให้ ใช้ Bank Statement ตัวจริง บัญชีออมทรัพย์ย้อนหลัง 3 เดือน ที่ออกจากทางธนาคารเท่านั้น พร้อมกับมีตราประกับจากธนาคาร อัพเดทไม่เกิน 15 วันนับจากวันยื่นวีซ่า (ของบริษัทที่ออกค่าใช้จ่าย) หรือ หนังสือรับรองทางการเงิน (Bank certificate) และต้องแนบหนังสือรับรองการจดทะเบียน(DBD) หรือสำเนาใบทะเบียนการค้า (พ.ค.0403) พร้อมหนังสือชี้แจงออกค่าใช้จ่ายเป็นภาษาอังกฤษ (Sponsor letter) **Bank Statement จะต้องสะกดชื่อ-นามสกุลให้ตรงกับพาสปอร์ต แสดงเลขที่บัญชีครบทุกตัว และจะต้องมีแสดงทั้งหมดในทุก ๆ หน้า ***Bank Statement ของธนาคารกรุงเทพ ถ้าธนาคารออกมาเป็นรูปแบบที่เป็นตัวครึ่งกระดาษ A4 ไม่สามารถใช้ยื่นได้ รบกวนแจ้งธนาคารให้ออกเป็นรูปแบบฉบับเด็ม **สถานทูตไม่รับพิจารณาบัญชีติดลบ บัญชีฝากประจำ, บัญชีกระแสรายวัน บัญชีสหกรณ์ออมทรัพย์ พันธบัตร ตราสารหนี้ กองทุน และสลากออมสิน**
-ทะเบียนบ้าน -บัตรประชาชน -สูติบัตร (กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี) -ทะเบียนสมรส/ทะเบียนหย่า/มรณะบัตร (ถ้ามี) -ใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ถ้ามีการเปลี่ยน)
-หากเด็กเดินทางไปกับบิดา จะต้องมีหนังสือยินยอมจากมารดา จากอำเภอต้นสังกัด (โดยมารดาจะต้องคัดหนังสือยินยอมระบุให้บุตรเดินทางไปต่างประเทศกับบิดา) พร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชนหรือหน้าพาสปอร์ตมารดามาด้วย -หากเด็กเดินทางกับมารดา จะต้องมีหนังสือยินยอมจากบิดา จากอำเภอต้นสังกัด (โดยบิดาจะต้องคัดหนังสือยินยอมระบุให้บุตรเดินทางไปต่างประเทศกับมารดา) พร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชนหรือหน้าพาสปอร์ตบิดามาด้วย -หากเด็กไม่ได้เดินทางพร้อมกับบิดาและมารดา ทั้งบิดาและมารดาจะต้องคัดหนังสือระบุยินยอมให้บุตรเดินทางไปต่างประเทศกับใคร มีความสัมพันธ์เป็นอะไรกันกับเด็ก จากอำเภอต้นสังกัด พร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชนหรือหน้าพาสปอร์ตบิดาและมารดา -กรณีเด็กที่บิดา-มารดาหย่าร้าง จะต้องแนบสำเนาใบหย่า และมีการสลักหลังโดยมีรายละเอียดว่าฝ่ายใดเป็นผู้มีอำนาจปกครองบุตรแต่เพียงผู้เดียว
**กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี บิดาและมารดาจะต้องเซ็นชื่อรับรองในแบบฟอร์มเกี่ยวกับการยื่นขอวีซ่าของบุตร รบกวนเดินทางมายื่นวีซ่าด้วยกันกับบุตรด้วยทั้งสองท่าน ไม่มียกเว้นทุกกรณี (สำคัญมาก)**
7. หลักฐานการฉีดวัคซีนเป็นภาษาอังกฤษ เช่น สำเนาวัคซีนพาสปอร์ต (เล่มสีเหลือง) หรือสำเนาใบรับรองการฉีดวัคซีนภาษาอังกฤษจากแอพพลิเคชั่น หมอพร้อม
เอกสารยื่นวีซ่าอาจมีการปรับเปลี่ยนและขออัพเดทเพิ่มเติมได้ทุกเวลา หากทางสถานทูตแจ้งขอเพิ่มเติม
|
คุณต้องป้อนรหัสแผนที่ทัวร์ในช่องที่เหมาะสมเมื่อแก้ไขทัวร์ของคุณเพื่อให้แสดงที่นี่
ขออภัย ยังไม่มีความคิดเห็นสำหรับ tour นี้.