เลือกวันเดินทาง
5วัน3คืน เดินทางธันวาคม 2565-มกราคม 2566
(TTN-XJ18_XJ)
5วัน3คืน เดินทางธันวาคม 2565-มกราคม 2566
(TTN-XJ18_XJ)
ขออภัย ทัวร์นี้ไม่สามารถจองได้ในขณะนี้
วันแรก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ ประเทศไทย
20.30 น. พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ผู้โดยสารขาออก เคาน์เตอร์ F สายการบินแอร์เอเชีย เอ็กซ์ เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับ และอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน
23.45 น. เหิรฟ้าสู่ เมืองนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น โดยเที่ยวบินที่ XJ600
สายการบิน AIR ASIA X ใช้เครื่อง AIRBUS A330-300 จำนวน 377 ที่นั่ง จัดที่นั่งแบบ 3-3-3 (น้ำหนักกระเป๋า 20 กก./ท่าน หากต้องการซื้อน้ำหนักเพิ่ม ต้องเสียค่าใช้จ่าย)
บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง
วันที่สอง ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ - กรุงโตเกียว - วัดอาซากุสะ - ช้อปปิ้งถนนนากามิเสะ – ถ่ายรูป โตเกียวสกายทรี ริมแม่น้ำสุมิดะ - จังหวัดไซตามะ - วัดคิตะอิน - ย่านเมืองเก่าคาวาโกเอะ - ศาลเจ้าฮิคาวะ – จังหวัดคานากาวะ – งานประดับไฟซากะมิโกะ – จังหวัดยามานาชิ - ออนเซ็น + ขาปูยักษ์
08.00 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ ประเทศญี่ปุ่น นำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร เรียบร้อยแล้ว (เวลาที่ญี่ปุ่น เร็วกว่าเมืองไทย 2 ชั่วโมง กรุณาปรับนาฬิกาของท่านเพื่อความสะดวกในการนัดหมายเวลา) ***สำคัญมาก!! ประเทศญี่ปุ่นไม่อนุญาตให้นำอาหารสด จำพวก เนื้อสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ เข้าประเทศ หากฝ่าฝืนมีโทษปรับและจับ
เดินทางสู่ โตเกียว (Tokyo) เมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในภูมิภาคคันโต (Kanto) บนเกาะฮอนชู (Honshu) ในอดีตคือเมืองเอโดะ (Edo) มีรถไฟสายยามาโนเตะ (Yamanote) วนเป็นวงกลมอยู่ใจกลางเมือง มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลก (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) จากนั้นนมัสการเจ้าแม่กวนอิมทองคำ ณ วัดอาซากุสะ (Asakusa Temple) วัดที่ได้ชื่อว่าเป็นวัดที่มีความศักดิ์สิทธิ์ และได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงโตเกียว ภายในประดิษฐานองค์เจ้าแม่กวนอิมทองคำที่ศักดิ์สิทธิ์ ขนาด 5.5 เซนติเมตร ซึ่งมักจะมีผู้คนมากราบไหว้ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลตลอดทั้งปี ประกอบกับภายในวัดยังเป็นที่ตั้งของโคมไฟยักษ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกด้วยความสูง 4.5 เมตร ซึ่งแขวนห้อยอยู่ ณ ประตูทางเข้าที่อยู่ด้านหน้าสุดของวัด ที่มีชื่อว่า “Kaminari Mon หรือ ประตูฟ้าคำรณ” บริเวณทางเข้าสู่ตัววิหารจะมี ถนนนากามิเซะ (Nakamise Shopping Street) ซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านค้าขายของที่ระลึกพื้นเมืองต่างๆ มากมาย เช่น หน้ากาก ของเล่น รองเท้า พวงกุญแจที่ระลึก และขนมนานาชนิด ทั้ง เมล่อนปังในตำนาน ดังโงะหนึบหนับ ขนมนิงเงียวยากิไส้ถั่วแดง และน้องปลาขนมไทยากิ ฯลฯ ให้ทุกท่านได้เลือกซื้อเป็นของฝากของที่ระลึก ใกล้กันพาท่านเดินไปถ่ายรูปคู่กับ หอคอยโตเกียวสกาย ทรี (Tokyo Sky tree) หอคอยที่สูงที่สุดในโลก จัดเป็นแลนด์มาร์กอีกอย่างหนึ่งของกรุงโตเกียว บริเวณริมแม่น้ำสุมิดะ เป็นหอส่งสัญญาณโทรคมนาคมที่สูงที่สุดในโลก เปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม ค.ศ.2012 โดยหอนี้มีความสูง 634 เมตร สามารถทำลายสถิติความสูงของหอกวางตุ้ง ในมณฑลกว่างโจว ซึ่งมีความสูง 600 เมตร และหอซีเอ็น ทาวเวอร์ ในนครโทรอนโต ของแคนาดา มีความสูง 553 เมตร ทิวทัศน์ของ หอคอยโตเกียวสกายทรี ที่บรรจุเทคโนโลยีแนวหน้าสุดสามารถมองเห็นได้จากละแวกวัดอาซากุสะที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายแบบเมืองเก่าของเอโดะ (ไม่รวมค่าขึ้นหอคอย)
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (1)
นำท่านเดินทางสู่ จังหวัดไซตามะ (Saitama) อยู่ในภูมิภาคคันโต มีความเจริญมากเพราะอยู่ติดโตเกียว มีเมืองชิชิบุ ที่โดดเด่นเรื่องธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ เมืองโอมิยะและคาวาโกเอะ ที่เป็นแหล่งรวมจุดช็อปปิ้งและสถานที่ที่ท่องเที่ยวน่าสนใจหลายแห่ง จากนั้นนำท่านนมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ วัดคิตะอิน (Kitain Temple) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.20 ชั่วโมง) มีชื่อเดิมว่า “วัดเซยะซัง มุเรียวชูจิ คิตะอิน (Seiyasan Muryoshuji Kitain)” เป็นวัดเก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดอีกแห่งหนึ่งของเมืองคาวาโกเอะวัดแห่งนี้สร้างขึ้นประมาณปี ค.ศ. 830 ซึ่งเป็นยุคของเอโดะ ผู้คนนิยมมาขอพรเกี่ยวกับการปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย ภายในวัดเปนจุดชมซากุระ ในช่วงปลายเดือนมีนาคม – ต้นเดือนเมษายน อีกด้วย พระพุทธรูป Ghyaku Rakan ตั้งเรียงรายประมาณ 540 องค์ ที่มีใบหน้าไม่ซ้ำกันประดิษฐานอยู่
อิสระเดินชม ย่านเมืองเก่าคาวาโกเอะ (Kawagoe’s Warehouse District) เป็นย่านที่มีบ้านเรือนสมัยเอโดะตลอดแนวยาวสองข้างทาง และบริเวณนี้ยังเคยมีโกดังเก็บของอยู่หลายแห่งตั้งแต่สมัยก่อน โดยคำว่า Kura แปลว่า โกดัง จึงเป็นที่มาของชื่อถนนคุระซุคุริ Kurazukuri ซึ่งเป็นเส้นที่คนนิยมเดินเที่ยวชมตึกรามบ้านช่องและสถาปัตยกรรมของเมืองนี้ ในสมัยก่อนเนื่องจากเมืองคาวาโกเอะเจริญรุ่งเรื่องทางด้านการค้าขายเป็นอย่างมากเปรียบได้กับโตเกียวในปัจจุบันเลยทีเดียว พ่อค้าแม่ค้าจึงร่ำรวยและมีการสร้างอาคารต่างๆขึ้นเรื่อยๆ บางอาคารก็มีอายุเก่าแก่และยังคงความดั้งเดิมมาจนถึงปัจจุบันก็มี จากนั้นให้ท่าน อิสระช้อปปิ้งเลือกซื้อสินค้าพื้นเมือง ณ ตรอกลูกกวาด (Candy Alley) เป็นเส้นช้อปปิ้ง ที่ร้านค้าส่วนใหญ่จะขายขนมพื้นเมืองเช่น เค้ก และ ขนมหวาน จึงเป็นที่มาของชื่อตรอกลูกกวาดหรือตรอกขนมนั่นเอง นอกจากนี้ยังมีขายคารินโดะ (karinto) คุ้กกี้พื้นเมืองญี่ปุ่น, ไอศกรีม, ขนมที่ทำจากถั่วแดงและมันหวาน และยังมีของเล็กชิ้นเล็กๆและของฝากต่างๆ
จากนั้นนำท่านขอพรความรัก ณ ศาลเจ้าฮิคาวะ (Hikawa Shrine) เป็นศาลเจ้าที่เขาว่าเด็ดนักเรื่องขอพรความรัก ภายในมี “อุโมงค์เอมะ” เอมะ คือ แผ่นไม้ที่เราเขียนขอพร และนำมาผูกจนกลายเป็นซุ้มคล้ายอุโมงค์ เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมถ่ายรูปทำคอนเทนต์จำนวนมาก นอกจากนี้ สายมูไม่ควรพลาด ท่านยังสามารถซื้อเครื่องรางต่างๆ ที่ไม่ใช่เฉพาะด้านความรัก ยังมี ด้านสุขภาพ ด้านการเงิน การงาน การเรียน เดินทางปลอดภัย และโชคลาภ ก็มีมากมายให้ท่านได้เลือกไว้เป็นของฝากของที่ระลึกอีกด้วย
เดินทางสู่จังหวัด คานากาวะ (Kanagawa) ตั้งอยู่ติดกับโตเกียวในภูมิภาคคันโต มีโยโกฮาม่า เป็นเมืองหลัก มีเมืองน่าเที่ยวอย่างคามาคุระ, โยโกสุกะและฮาโกเน่ คานางาวะรวมไว้ทั้งความเจริญทางวัตถุ ความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ความเชื่อ และวัฒนธรรมเข้าด้วยกัน คานากาวะจึงเป็นจังหวัดที่เหมาะแก่การเดินทางไปท่องเที่ยวเป็นที่สุด (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.20 ชั่วโมง)
จากนั้นนำท่านชม งานประดับไฟซากะมิโกะ (Sagamiko Illumination) เป็นหนึ่งในการแสดงแสงสีฤดูหนาวที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น โดยใช้ไฟ LED หลากสีสันประมาณ 6 ล้านดวงและนับเป็นหนึ่งในสามการแสดงแสงสีฤดูหนาวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของภูมิภาคคันโต โดยในแต่ละปีก็จะมีธีมการแสดงแตกต่างกันออกไป โดยปีที่แล้ว 2021-2022 เป็นธีมเซเลอร์มูน สำหรับปีนี้รอการประกาศอย่างเป็ทางการอีกครั้งนึง อิสระให้ท่านเดินชมงานประดับไฟ พร้อมถ่ายภาพเก็บความประทับใจตามอัธยาศัย
ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางเข้าสู่โรงแรม (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร ของโรงแรม (2) พิเศษ!! อิ่มอร่อยกับ บุฟเฟ่ต์ขาปู
ที่พัก ホテル縁の杜河口湖 Yukari No Mori หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
จากนั้นให้ท่านได้ผ่อนคลายกับการ แช่น้ำแร่ออนเซ็นธรรมชาติ เชื่อว่าถ้าได้แช่น้ำแร่แล้ว จะทำให้ผิวพรรณสวยงามและช่วยให้ระบบหมุนเวียนโลหิตดีขึ้น
วันที่สาม จุดชมวิวชั้น 5 ภูเขาไฟฟูจิ (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ) หรือ สัมผัสหิมะ ณ ลานสกี ฟูจิเท็น สโนว รีสอร์ท - พิธีชงชาญี่ปุ่น - พิพิธภัณฑ์หมู่บ้านอิยาชิโนซาโตะ - กรุงโตเกียว - ย่านโอไดบะ - ห้างไดเวอร์ซิตี้ – เมืองนาริตะ - อิออน มอลล์ นาริตะ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (3)
07.30 น. เดินทางสู่ ภูเขาไฟฟูจิ (Mount Fuji) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที) ที่มีความสูงเหนือจากระดับน้ำทะเล 3,776 เมตร ภูเขาที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในเรื่องความสวยงามที่ธรรมชาติได้มอบมาให้อย่างลงตัว และยังถือว่าเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของประเทศญี่ปุ่น ทั้งยังเป็นจุดมุ่งหมายของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเยือนญี่ปุ่นตลอดทุกฤดูกาล นำท่านขึ้นสู่ชั้นที่ 5 ของภูเขาไฟฟูจิ (ขอสงวนสิทธิ์ไม่ขึ้น ในกรณีที่อากาศไม่เอื้ออำนวย หรือ ทางขึ้นปิด) ที่ทุกท่านจะได้เห็นถึงความสวยงามของตัวภูเขาและวิวโดยรอบของภูเขาไฟฟูจิ ให้ทุกท่านได้ถ่ายภาพความประทับใจเก็บไว้ และเลือกซื้อสินค้าของที่ระลึกซึ่งเป็นสัญลักษณ์รูปภูเขาไฟฟูจิในหลากหลายบรรยากาศได้อีกด้วยอิสระให้ท่านได้เพลิดเพลินกับการถ่ายรูปและซื้อของที่ระลึกตามอัธยาศัย
**สำหรับวันเดินทางตั้งแต่ 19 ธันวาคม เป็นต้นไป ปรับโปรแกรมไปลานสกีแทน หรือ อาจเร็วกว่านั้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพความหนาของหิมะที่มากพอที่จะเล่นสกีได้ กรณีที่หิมะยังหนาไม่พออาจปรับเปลี่ยนไปลานสกีอื่นทดแทน หรืออาจปรับไปขึ้นภูเขาไฟฟูจิชั้น 5 ทดแทน (สงวนสิทธิ์ ขออนุญาตปรับโปรแกรมตามความเหมาะสมหน้างาน โดยไม่แจ้งล่วงหน้า)
นำท่านสัมผัสประสบการณ์ความสนุกสนานที่ ฟูจิเท็น สโนว รีสอร์ท (Fujiten Snow Resort) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) เป็นลานสกีและที่พักที่ตั้งอยู่บริเวณภูเขาไฟฟูจิ ท่านจะได้สัมผัสกับหิมะ อิสระให้ท่านเพลิดเพลินกับการลื่นไถลด้วยสกี เลือกสนุกกับสโนว์บอร์ด หรือตื่นเต้นไปกับการนั่งรถเลื่อนหิมะ ณ ลานสกีแห่งนี้ ท่านสามารถดื่มด่ำกับทัศนียภาพที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะที่ดูแล้วสะอาดตาอย่างยิ่ง และในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ท่านจะพบกับวิว ภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของประเทศญี่ปุ่น ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในเรื่องความสวยงามที่ธรรมชาติที่รังสรรคได้อย่างลงตัว และยังถือว่าเป็นจุดมุ่งหมายของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเยือนญี่ปุ่นตลอดทุกฤดูกาล (ราคาทัวร์ไม่รวมค่าเช่าอุปกรณ์และชุดสำหรับเล่นกิจกรรมต่างๆ)
จากนั้นสัมผัสวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่น นั่นก็คือ การเรียนพิธีชงชาญี่ปุ่น (Sado) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) โดยการชงชาตามแบบญี่ปุ่นนั้น มีขั้นตอนมากมาย เริ่มตั้งแต่การชงชา การรับชา และการดื่มชา ทุกขั้นตอนนั้นล้วนมีพิธี รายละเอียดที่บรรจงและสวยงามเป็นอย่างมาก พิธีชงชานี้ ไม่ใช่แค่รับชมอย่างเดียว ยังเปิดโอกาสให้ท่านได้มีส่วนร่วมในพิธีการชงชานี้อีกด้วย และจากนั้นให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อของที่ระลึกตามอัธยาศัย
11.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (4)
เดินทางสู่ พิพิธภัณฑ์หมู่บ้านอิยาชิโนซาโตะ (Iyashi no Sato) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40นาที) ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่เคยเป็นหมู่บ้านเกษตรกรรมบนชายฝั่งทิศตะวันตกของ ทะเลสาบไซโกะ (Lake Saiko) ซึ่งถูกพายุไต้ฝุ่นพัดถล่มในปี ค.ศ.1966 จนกระทั่งต่อมาอีก 40 ปีได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ให้เป็นแบบดั้งเดิม และเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งให้ ประชาชนได้เข้าชมศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรม ลองและซื้อสินค้าหัตถกรรมแบบดั้งเดิม ภายในหมู่บ้าน ประกอบด้วยบ้านกว่า 20 หลังคาเรือน ในอาคารแต่ละหลังนอกจากกิจกรรมงานฝีมือแบบดั้งเดิมแล้ว ยังสามารถชมพิพิธภัณฑ์และแกลลอรี่, ซื้อสินค้าพื้นเมือง, เพลิดเพลินกับร้านน้ำชาและร้านอาหาร นอกจากนี้ยังมีจัดอีเวนท์แบบโบราณให้เข้ากับฤดูกาลด้วย
เดินทางกลับกรุงโตเกียว เมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น เดินทางสู่ ย่านโอไดบะ (Odaiba) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) คือเกาะที่สร้างขึ้นไว้เป็นแหล่งช้อปปิ้ง และแหล่งบันเทิงต่างๆ ในอ่าวโตเกียว ได้รับการปรับปรุงให้มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมในช่วงหลังของปี 1990 นอกจากมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามตั้งอยู่มากมายแล้ว แต่ก็ยังคงความเป็นธรรมชาติไว้ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่สีเขียว ไดเวอร์ซิตี้ โตเกียว พลาซ่า (Diver City Tokyo Plaza) เป็นห้างดังอีกห้างหนึ่ง ที่อยู่บนเกาะ โอไดบะ จุดเด่นของห้างนี้ก็คือ หุ่นยนต์กันดั้ม ขนาดเท่าของจริง ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก ในบริเวณห้าง อิสระช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
เดินทางสู่ อิออน มอลล์ นาริตะ (Aeon Narita Mall) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) ห้างสรรพสินค้าที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เนื่องจากตั้งอยู่ใกล้กับสนามบินนานาชาตินาริตะ ภายในตกแต่งในรูปแบบที่ทันสมัยสไตล์ญี่ปุ่น มีร้านค้าที่หลากหลายมากกว่า 150 ร้านจำหน่ายสินค้าแฟชั่น อาหารสดใหม่ และอุปกรณ์ภายในบ้าน นอกจากนี้ยังมีร้านเสื้อผ้าแฟชั่นมากมาย เช่น MUJI, 100 yen shop, Sanrio store, Capcom games arcade และซุปเปอร์มาร์เกตขนาดใหญ่
ค่ำ อิสระรับประทานอาหารค่ำตามอัธยาศัย
ที่พัก The Hedistar Hotel Narita หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
วันที่สี่ เมืองนาริตะ - วัดนาริตะซัน - ถนนปลาไหล โอโมเตะซังโดะ นาริตะ – เมืองซาวาระ -กรุงโตเกียว - ชมแมวยักษ์ 3 มิติ พร้อมช้อปปิ้ง ย่านชินจูกุ - เมืองนาริตะ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (5)
นำท่านสู่ วัดนาริตะซัน (Naritasan Shinshoji Temple) เป็นวัดในพระพุทธศาสนาเก่าแก่ ตั้งอยู่ที่เมืองนาริตะ จังหวัดชิบะ ที่วัดแห่งนี้มีรูปเคารพขององค์ฟุโดเมียวโอ ที่มีชื่อเรียกขานกันมาตั้งแต่สมัยโบราณว่า "นาริตะฟุโด" ประดิษฐานเป็นองค์พระประธาน ถือเป็นหนึ่งในศาสนสถานสำคัญที่เป็นศูนย์กลางความศรัทธาต่อองค์ฟุโดเมียวโอ ชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวนิยมมาไหว้ขอพรเรื่องการงาน การเดินทางปลอดภัย และโชคลาภ บริเวณถนนเข้าสู่วัด เป็นถนนช้อปปิ้งที่มีชื่อว่า โอโมเตะซังโดะ นาริตะ (Naritasan Omotesando) หรือ ถนนปลาไหล ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร จาสถานีรถไฟ เต็มไปด้วยร้านค้าต่างๆ เช่น ร้านจำหน่ายสินค้างานฝีมือดั้งเดิม ร้านอาหาร และร้านของที่ระลึก และที่ถนนแห่งนี้จะมีร้านขายข้าวหน้าปลาไหลขึ้นชื่อ และมีการแร่ปลาโชว์สดๆ หน้าร้านอีกด้วย ซึ่งเปิดบริการให้แก่นักท่องเที่ยวมานานหลายศตวรรษ นำท่านเดินทางสู่ เมืองซาวาระ (Sawara) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 35-40 นาที) เป็นเมืองเล็กๆ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองนาริตะ เคยเป็นศูนย์กลางการขนส่งข้าวในช่วงสมัยเอโดะ บริเวณใจกลางเมืองมีคลองตัดผ่าน มีชื่อเรียกว่า เอโดะน้อย Little Edo ได้รับการรักษาและบูรณะที่อยู่อาศัยแบบดั้งเดิม ร้านค้าต่างๆ และคลังสินค้าจากสมัยเอโดะ ระหว่างคลองจะเชื่อมต่อด้วยสะพานหลายแห่ง ไฮไลท์!!! สะพานจาจา หรือ สะพานโทโยฮาชิ ซึ่งจะมีน้ำไหลออกมาจากสะพานทั้งสองด้านคล้ายน้ำตก ใกล้ๆกับสะพานจาจา เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์อิโนะทาดาทากะและบ้านพักอาศัยเดิมของเขา อิโนะทาดาทากะ คือผู้ที่บุกเบิกประเทศญี่ปุ่น สร้างแผนที่ที่แม่นยำในสมัยโชกุนโทกุงาวะ ภายในพิพิธภัณฑ์จึงจัดแสดงผลงาน และเทคนิคต่างๆที่ใช้ในการทำงานของเขา พร้อมคำอธิบายภาษาอังกฤษ อิสระให้ท่านชมเมืองซาวาระตามอัธยาศัย
เที่ยง อิสระรับประทานอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
จากนั้น นำท่านช้อปปิ้ง ย่านชินจุกุ (Shinjuku) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.40-2 ชั่วโมง) ให้ท่านอิสระและเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งสินค้ามากมายทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า กล้องถ่ายรูปดิจิตอล นาฬิกา เครื่องเล่นเกมส์ หรือสินค้าที่จะเอาใจคุณผู้หญิงด้วย กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า แบรนด์เนม เสื้อผ้าแฟชั่นสำหรับวัยรุ่น เครื่องสำอางยี่ห้อดังของญี่ปุ่นไม่ว่าจะเป็น KOSE, KANEBO, SK II, SHISEDO และอื่นๆ อีกมากมาย ห้ามพลาด!!! จุดเช็คอินแห่งใหม่ของชาวโซเชี่ยล นั่นก็คือ แมวยักษ์ 3 มิติ ที่โผล่บนจอแอลอีดีมีขนาดมหึมา จอมีความโค้งขนาด 154 ตารางเมตร (1,664 ตารางฟุต) เสียงที่ออกจากลำโพงคุณภาพเกรดดี ความละเอียดภาพระดับ 4K ถือเป็นเทคโนโลยีระดับสูง ที่ให้ภาพเสมือนจริงปรากฎเป็นภาพแมวเหมียวเดินเล่นไปมาอยู่เหนือกรุงโตเกียว นอกจากแมวยักษ์แล้ว ท่านยังสามารถรับชมโฆษณาต่างๆ ที่ถูกครีเอทให้เป็นภาพ 3 มิติผ่านจอแอลอีดีนี้ ไม่ว่าจะเป็น แพนด้า, รองเท้าไนกี้, น้องหมา Pompompurin, จานบิน UFO แม้แต่ หุ่นยนต์เครื่องดูดฝุ่น ท่านสามารถรับชมและเก็บภาพได้ตามอัธยาศัย
ค่ำ อิสระรับประทานอาหารค่ำตามอัธยาศัย
ที่พัก The Hedistar Hotel Narita หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
วันที่ห้า ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ – ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (6)
หลังรับประทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว นำท่านออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ (โดยรถบัสโรงแรม)
09.15 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบิน แอร์เอเชีย เอ็กซ์ เที่ยวบินที่ XJ601
13.45 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ
**สายการบินมีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง**
*ท่านใดมีไฟล์ทบินภายในประเทศต่อ รบกวนจองเป็นสายการบินแอร์เอเซียเท่านั้น*
** ทั้งนี้หากสายการบินไฟล์ทอินเตอร์เกิดเที่ยวบินล่าช้า ทางบริษัทจะรับผิดชอบชดเชยค่าเสียหายเฉพาะสายการบินภายในประเทศที่เป็นสายการบินเครือเดียวกันกับไฟล์ทอินเตอร์ และรบกวนแจ้งพนักงานขายล่วงหน้าก่อนทำการซื้อตั๋วภายในประเทศทุกครั้ง เพื่อประโยชน์ของตัวท่านเอง **
คุณต้องป้อนรหัสแผนที่ทัวร์ในช่องที่เหมาะสมเมื่อแก้ไขทัวร์ของคุณเพื่อให้แสดงที่นี่
ขออภัย ยังไม่มีความคิดเห็นสำหรับ tour นี้.
5วัน3คืน เดินทาง กรกฎาคม-สิงหาคม 2566
(IT-JXJ61_XJ)
ขออภัย ทัวร์นี้ไม่สามารถจองได้ในขณะนี้
คุณต้องป้อนรหัสแผนที่ทัวร์ในช่องที่เหมาะสมเมื่อแก้ไขทัวร์ของคุณเพื่อให้แสดงที่นี่
ขออภัย ยังไม่มีความคิดเห็นสำหรับ tour นี้.